สำหรับใครที่สนใจจะลองมา หางานสิงคโปร์ ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ เจ้าของบล็อกขอแชร์ประสบการณ์ที่เคยผ่านการหางานมาแชร์กันค่ะ
สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต่างชาติเข้ามาทำงานเยอะมาก แต่จะผ่านเข้ามาทำงานได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ หากบริษัทต้องการคุณ แต่รัฐบาลไม่อนุญาตก็ต้องเสียงานไปง่ายๆ นอกจากจะต้องผ่านการสัมภาษณ์จากบริษัทผู้ว่าจ้างแล้ว ทางบริษัทต้องส่งเรื่องเพื่อขอบัตรอนุญาติทำงาอย่างถูกต้องตามกฏหมายให้คุณด้วย ซึ่งทางรัฐบาลจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติของคุณว่าเหมาะสมหรือไม่
แล้วจะเริ่มต้นยังไงดี? ขั้นตอนแรกก็เริ่มหางานกันก่อนค่ะ มีเว็บไซต์หางานมากมาย ที่เป็นที่นิยมก็มีดังนี้ค่ะ
- www.tjobs.sg
- www.sg.jobsdb.com/sg
- www.monster.com.sg
- https://www.linkedin.com/jobs
- https://www.indeed.com.sg/
ซึ่งเว็บไซต์ทั้งหลายนี้ก็จะมีประกาศหางาน มีทั้งบริษัทประกาศหาเองและแบบผ่านเอเจนซี่ แนะนำให้อ่านรายละเอียดงานให้ดีก่อนทำการสมัคร ถ้าอ่านในรายละเอียดประกาศก็พอจะเดาได้ค่ะว่าบริษัทโพสเองหรือเอเจนซี่โพส ส่วนขั้นตอนการสมัครก็ทำตามขั้นตอนที่ลงไว้ในประกาศเลยค่ะ บางเจ้าให้ส่ง resume ผ่านทางอีเมล์ บางเจ้าให้ส่งผ่านเว็บไซต์ อันนี้ต้องดูให้ดี
ในส่วนของ resume ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ก่อนทำการส่ง resume ก็ลองปรับเปลี่ยนข้อมูลให้ตรงกับงานที่เราสมัครสักนิด รูปถ่าย ข้อมูลติดต่อ รายละเอียด ใส่ให้ครบก่อนส่งนะคะ
อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนยังไม่เข้าใจนั้นคือส่วนของ Requirement งานส่วนใหญ่จะรับเฉพาะคนที่เป็น Singaporean / PR เท่านั้น ทำไมบริษัทถึงรับต่างชาติที่ไม่ได้พำนักอาศัยในสิงคโปร์เนื่องจาก สิงคโปร์เองก็มีปัญหาเรื่องของคนตกงานเยอะมากค่ะ บริษัทส่วนใหญ่ว่าจ้างต่างชาติเพราะความสามารถที่เหนือกว่าและค่าแรงถูกกว่า รัฐบาลเองจึงต้องควบคุมจำนวนต่างชาติที่จะเข้ามาทำงาน ซึ่งรัฐบาลจะอนุญาติให้บริษัทจ้างต่างชาติได้เป็นจำนวน X% ต่อแรงงานสิงคโปร์จำนวน Y คน (สมการสมมตินะคะ ^^ แต่ละบริษัทจะมีอัตราแปลผันแตกต่างกันไปค่ะ)
แล้ว PR คืออะไร? PR ย่อมาจาก Permanent Resident ค่ะ ต่างชาติจะได้ PR ก็ต่อเมื่อแต่งงานกับคนสิงคโปร์หรือ PR ด้วยกัน หรือ มีพ่อหรือแม่เป็นคนสิงคโปร์ หรือ เรียนสิงคโปร์มาตั้งแต่เด็ก อยู่เกิน 3 ปีก็สมัคร PR ได้ค่ะ แต่จะผ่านหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลอีกนั้นแหละ
หากคุณได้รับการติดต่อกลับจากบริษัท คุณควรถามบริษัทเลยว่ารับต่างชาติไหมในกรณีที่คุณไม่มีวีซ่าอะไรเลย หากบริษัทไม่รับก็ไม่ต้องเสียเวลาคุยเลยค่ะ หากบริษัทเสนอทำบัตรวีซ่าให้ ก็ลุ้นต่อไปให้วีซ่าผ่าน
มาพูดถึงเรื่องของเอเจนซี่ที่ค้างไว้ดีกว่า เอเจนซี่จะเก็บค่านายหน้า ส่วนใหญ่ 50% ของเงินเดือน บางทีโชคดีบริษัทก็จ่ายให้ แต่ใครโชคร้ายเจอบริษัทงกหน่อยก็ต้องจ่ายเอง จะมีการทำสัญญากับเอเจนซี่ด้วยค่ะ ซึ่งสัญญานี้ก็จะแตกต่างกันออกไป อ่านให้ดีก่อนเซ็นต์อะไรใดๆ ส่วนใหญ่จะกำหนดที่ห้ามลางานหรือลาออกภายใน 3 เดือนแรก ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับเอเจนซี่เป็นจำนวน X เท่าของเงินเดือน o_o ย้ำอีกที อ่านให้ดีก่อนเซ็นต์นะคะ
ในสิงคโปร์มีคนไทยเยอะมาก มีทั้งแรงงานไร้ฝีมือไปจนถึงเจ้าของกิจการ งานมีเยอะค่ะ ขึ้นอยู่กับโอกาสและความพยายามของคุณแล้วละ
มีเว็บไซต์ที่ให้คุณลองกรอกรายละเอียดคร่าวๆ เพื่อตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติพอจะได้บัตร pass ประเภทไหน ลองได้ที่เว็บนี้เลยค่ะ https://services.mom.gov.sg/sat/satservlet บัตรอนุญาตทำงานในสิงคโปร์จะมี 3 แบบหลักๆค่ะคือแบบ Work Permit, S Pass และ EP อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.vannyorh.com/วีซ่าสิงคโปร์/
จากประสบการณ์ส่วนตัวขอสรุปข้อที่ควรคำนึงไว้ตามนี้นะคะ
- คำนวนเงินเดือนให้ดีว่าพอกับค่าครองชีพหรือเปล่า สิงคโปร์ค่าที่พักแพงค่ะ ส่วนอาหาร ของใช้ในชีวิตประจำวัน หาแหล่งซื้อถูกๆได้
- ถาม HR หรือ Agency เรื่องบัตร Pass ก่อน เจอหลายครั้งมากๆ ที่บอกว่าจัดการให้ สุดท้ายบอกโควต้าไม่พอ อันนี้ต้องศึกษาและแจ้ง HR เองว่าเราต้องทำบัตรแบบไหน
- Agency บางทีจะมีประเภทพวกยัดเยียดให้เราทำงานที่ไม่ถนัด พวกนี้จะได้ค่าคอมมิชชั่นซึ่งอาจจะหักจากบริษัทหรือหักจากเงินเดือนเราก็ได้ค่ะ
- หากอยู่ไทย สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือ Skype ก็ได้ค่ะ
- ภาษาสำคัญมาก ต้องฟัง/พูด/อ่าน/เขียน ภาษาอังกฤษ หรือจีน ให้ได้ภาษาใดภาษาหนึ่ง
- หากหางานผ่าน Agency ต้องอ่านสัญญาให้ดีๆ ถ้าเป็นไปได้ให้สมัครผ่านบริษัทโดยตรงค่ะ เพราหากเกิดปัญหาภายหลังอาจจะต้องเสียค่าปรับไม่คุ้มเงินเดือน
- สำหรับต่างชาติต้องต่ออายุบัตรทุกปีค่ะ ซึ่งแต่ละปีก็ต้องยื่นใบสมัครใหม่ อาจจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ได้ หากไม่ผ่าน อันนี้ต้องทำใจว่าต้องหางานใหม่หรือกลับไทยเท่านั้น
ใครมีปัญหาเรื่องการหางานในสิงคโปร์ อย่าลืมมาแชร์กันบ้างนะคะ วันนี้ลาไปก่อนเท่านี้นะคะ เจอกันใหม่โพสหน้าจ้า =)